Brugge

เพราะอยู่ไกลชายแดนเบลเยี่ยม ก็เลยไปเที่ยวเมืองต่างๆของเค้าได้บ่อย ก็มีหลายเมืองมากที่ไปเช้าเย็นกลับได้ ที่ไปบ่อยๆหน่อยก็Antwerpen เมืองนี้ขับรถจากบ้านประมาณ 45 นาทีก็ถึง (แต่ปี 2005 นี้ไม่ค่อยได้ไปเพราะมีการสร้างทาง รถติด) ถ้าคิดอยากไปซื้อเสื้อผ้า ต้องไปที่นี่ เราว่ามันสวยกว่าที่เนเธอร์แลนด์เยอะเลย

ส่วนเมือง Brugge เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในโปรแกรมทัวร์ทั่วไป ดังนั้นเราจึงไม่พลาดที่จะไปเยือนเมืองนี้ เหมือนเดิม อิอิ จะเที่ยวเมืองให้ทั่วก็ต้องไม่มีลูกไปด้วย จัดการฝากไว้กับย่าเสร็จสรรพก็ออกเที่ยวกันได้เลย อ้อ ก่อนอื่นต้องหาข้อมูลก่อน ว่าเมืองนี้เค้ามีอะไรที่น่าสนใจ อะไรเป็นสิ่งสำคัญที่ไมควรพลาด ก็เสริชหาเอาตามเวปนั่นแหละ ได้ทั้งข้อมูลและแผนที่ตั้งของแต่ละสถานที่ พร้อมข้อมูลคร่าวๆ แล้วก็ได้เวลาเริ่มเดิน อิอิ เดินชมเมืองจ้ะ ไม่ใช่เดินจากบ้านนะ

ที่แรก ก็นี่เลย ศาลาว่าการเมือง (Stad huis) ถือได้ว่าเป็นอาคารที่เก่าแก่มากๆที่หนึ่งในหลายๆเมือง สามารถเข้าชมภายในได้ แต่ก้ไม่ได้เข้าอ่ะ เห็นคนเยอะเหลือเกินเลยขอบาย กะว่าไปที่อื่นก่อน เดี๋ยวมาใหม่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มา

ถัดไปอยู่ทางด้านซ้ายของศาลาว่าการ คือ Belfort en Hallen เป็นอาคารที่ประกอบด้วยหอคอยสูง belfort หมายถึงหอคอย Hallen หมายถึงอาคารสำหรับเก็บของหรือหมายถึงคลังสินค้าในสมัยก่อน (พยายามแปลจากภาษาดัชท์ ถ้าผิดต้อขออภัย) ถ้าต้องการขึ้นไปสูดอากาศหร้อมทั้งชมวิวของเมืองนี้ข้างบน ก็ไม่ยากค่ะ ขึ้นบันได้แค่ 336 ขั้นเอง อิอิ แต่ว่าเผอิญตอนนั้นยังมิกล้าเลยไม่ได้ขึ้นไป

www.holland4thai.net

ศาลาว่าการเมือง

ตรงข้ามกับศาลาว่าการเมืองจะเป็นร้านค้าต่างๆ ที่เห็นนั่นเป็นรถม้าให้เช่า อยากนั่งมั่งนะ แต่แพงจัง แถมคนข้างกายบอกสำหรับคนแก่ เลยเปลี่ยนใจ

counter create hit

 

 

Belfort en Hallen

บรรยากาศของเมือง Brugge จะคล้ายๆกับ Amsterdam คือมีคลองรอบๆเมือง เราสามารถนั่งเรือชมเมืองได้ แต่ถ้าให้เปรียบเทียบกัน คิดว่าที่นี่ดูสะอาดและไม่ดูรุงรังเหมือนอัมสเตอร์ดัมนะ

 

 

 

 

 

 

 

คลองนี้แหละเดี๋ยวจะมาล่องด้วยคน

 

ข้างหลังที่เห็นคือ Voormalige Civiele Griffie เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ภายในมีเตาพิงที่ทำด้วยไม้ที่สวยมากของ Keizer Karel V นอกจากนั้นยังมีภาพเขียนของกษัตริย์อีกด้วย

 

ภาพนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ในหลายๆแห่ง แต่ว่าลืมชื่อซะแล้ว

 

หลังจากเดินชมเมืองเสร็จ ก็มานั่งเรือกันบ้าง พักขาไปในตัว

 

ที่เห็นเป็นหอคอยสูงข้างหน้านั่น คือ Europa-College เป็นมหาวิทยาลับนานาชาติ (ภาพนี้ตอนอยู่ในเรือ เค้าจะกลับเรือให้เราได้ถ่ายภาพนี้ด้วย)   จากนี้ไปก็ชมวิวริมฝั่งคลอง

 

 

มุมนี้ก็สวย เหมือนเรากำลังจะล่องเรือลอดอุโมงค์ต้นไม้

 

 

 

 

ระเบียงบ้านริมคลอง

จากนั่งเรือก็มาเดินต่อ อยากไปช๊อปปิ้ง (พูดไปงั้นแต่ไม่มีตังแระ) แต่ว่าหมดเวลา ใกล้ห้าโมงเย็นแล้ว ร้านรวงเริ่มปิด เลยไปเดินสวน สาธารณะกันต่อ

 

 

 

เดินกันจนเหนื่อย หาที่กินข้าวด้วย เดินหาร้านไทย แต่ไม่เห็นเลย ลืมหาข้อมูลไปก่อน เลยกลับดีกว่า แต่ว่าไม่ได้กลับทางเก่าที่เรามา เรากะจะไปเมืองติดชายทะเลซึ่งที่นั่นมีอุโมงค์ข้ามมายังเนเธอร์แลนด์ เป็นอุโมงค์ที่เพิ่งสร้างเสร็จไม่นาน ระหว่างทางก็ยังแวะเมืองใหญ่ๆอีก จุดประสงค์เพื่อหาร้านไทย ก็หากันจนเหนื่อย จนเลิกหา แต่ทันใดนั้นสายตาก็ไปเจอร้านไทยเข้าโดยบังเอิญ เฮ้อ รอดตายแล้ว ชื่อร้านจำไม่ได้แล้ว เจ้าของร้านเป็นคนเบลเยี่ยมแต่แม่ครัวไทย อาหารใช้ได้ ถึงไม่ใช่รสสำหรับคนไทย แต่ก็พอแก้ขัดไปได้มื้อนึง ก็แพงพอสมควรเพราะร้านเค้าอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวด้วย กินเสร็จก็ตรงกลับบ้านเลย ปล่อยให้คนขับรถทำหน้าที่ไป เราก็พักเอาแรงไว้ทริปต่อไป อิอิ