Gent

ถ้าอาทิตย์ไหนที่เราว่างและไม่มีนัด และดูดินฟ้าอากาศแล้วว่าดีหรือพอใช้ได้ เรามักจะหาที่ไปเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เมือง Gent เบลเยี่ยม ก็เป็นอีกที่นึงที่เราอยากมา แต่การจะเดินเที่ยวเมืองให้เต็มที่แบบนี้ นั่นหมายความว่า มิเชลเลอร์ต้องไปอยู่กับปู่ย่า ไม่อย่างนั้นอย่าหวังว่าจะเดินได้ทั่วถึงเลย

เราออกเดินทางกันแต่เช้าประมาณแปดโมงกว่าๆ ขับรถไปเรื่อยๆไม่รีบร้อน ไปถึงที่นั่นประมาณสิบโมงกว่าๆได้ นักท่องเที่ยวเริ่มมากันแล้ว เพราะช่วงนี้เริ่มเข้าฤดูใบไม้ผลิ นักท่องเที่ยวชาวเอเชียก็เยอะ โดยเฉพาะจีนกับญี่ปุ่น เมืองเคนท์ มีสถานที่ให้ดูมากมาย ดังนั้นหากจะเดินให้คุ้มค่า และไม่เสียเวลาย้อนไปย้อนมา อันดับแรก ควรไปที
Tourist information จะมีแผนที่ของเมือง พร้อมทั้งเส้นทางเดินที่จะผ่านจุดที่สำคัญๆที่ไม่ควรพลาด และระยะเวลาการเดินโดยประมาณให้ด้วย ทริปนี้เค้ากะไว้บวกลบสองชั่วโมง แต่ว่าเดินจริงอาจมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับกำลังของแต่ละคน

ภาพข้างบนสองภาพนั้นเป็น ภาพวาดชุด "De aanbidding van het Lams God" ซึ่งเป็นภาพที่มีชื่อเสียงของโลกภาพหนึ่ง เป็นรายการสำคัญที่ไม่ควรพลาดชม

ส่วนภาพขวามือนี้เป็นภาพเขียนบนกระจก มีให้เห็นเยอะมากในโบสถ์แห่งนี้ ในสายตาเราสวยกว่าหลายๆแห่งที่ได้เห็นมา

www.holland4thai.net

เริ่มต้นที่ Tourist information โบสถ์ด้านหน้าที่เห็นคือ Sint-Baafskathedraal และอาคารด้านข้างคือศาลาว่าการเมือง (Stad Huis)

ตึกรูปทรงสวยดี มีกระจกใสซึ่งแปลกตากว่าตึกอื่น

ด้านหลังโบสถ์ Sint-Baafskathedraa

ภาพด้านล่างคือภายในโบสถ์l

ภาพนี้คิทางเข้ามาปราสาท ถ่ายจากด้านบนลงมา

ด้านในบางส่วน ในนั้นจะมีหลายห้องมาก ห้องขังนักโทษจะอยู่ใต้ดิน จะหนาวเย็นมาก (เค้าว่างั้นอ่ะ)

ห้องนี้แสดงอาวุธให้ดู ดาบเล่มนี้ยาวสองเมตรได้มั้ง สงสัยจัง จะถือไว้เหรอเนี่ย

ห้องนี้ไว้ตัดหัวนักโทษ ถุงนั่นก็ไว้รองรับหัวน่ะ

counter create hit

 

 

ภาพด้านบนนี้คือรูปปั้นของผู้ที่วาดภาพที่เห็นในโบสถ์

ด้านขวามือเป็นภาพถ่ายอีกมุมนึงของโบสถ์

จากโบสถ์เราเดินตามเส้นทางไปเรื่อยๆก็จะมาเจอ Het Groot Vleeshuis เป็นศูนย์กลางการซื้อขายจำพวกเนื้อสัตว์ในอดีต แต่ตอนนี้กลายเป็นที่ขายกาแฟไปแล้ว แต่ก็คงบรรยากาศเก่าๆให้ดูกัน อ้อที่เห็นห้อยๆน่ะของปลอมนะจ้ะ

เดินไปเรื่อยๆ คลองที่เห็นเนี่ย เค้ามีนั่งเรือเที่ยวด้วย คนละ 5.50 ยูโรได้มั้ง 40 นาที ถ้าเอาแบบเต็มที่เลย 90 นาที ก็แพงกว่านี้นิดหน่อย แต่ต้องจองก่อน ตอนแรกกะจะนั่ง แต่ดูแล้ว ข้างคลองสวยน้อยกว่าเมือง Brugge (เบลเยียม เหมือนกัน) เลยไม่นั่งดีกว่า อีกอย่าง ตอนบ่ายฝนเริ่มตกปรอยๆ เลยไม่ลงมันแล้ว

อาคารที่เป็นเอกลัษณ์ของเมืองนี้ เพราะแต่ละช่องหน้าต่างจะมีลักษณะเฉพาะ มีลวดลายต่างๆกันไป

 

 

 

 

เดินต่อไปก็มีห้องแสดงเครื่องมือต่างๆที่ใช้ทรมานนักโทษ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาอ่ะ ดูเฉยๆ ออกมาถึงชั้นบนสุดของปราสาท  มองลงไปเห็นวิวเมือง Gent

 

ภาพอำลาเมือง Gent

จากนั้นก็เดินไปตามแผนที่ชมเมืองไปเรื่อยๆ จนจบทัวร์ ฝนเริ่มโปรยเบาๆ กะว่าจะเดินชอปปิ้ง เลยไม่เอาดีกว่า เพราะขากลับเราจะขับรถกลับอีกทางนึง ทางเดิมต้องผ่าน Antwerpen มันกำลังทำทางอยู่ แล้วก็รถเยอะมาก เราเลยเลี่ยงไปทางบรัสเซล เลยรีบกลับกันดีกว่า กลัวต้องติดแหงกอยู่ในรถ

 

 

 

 

 

 

 

จากนั้นก็เดินๆๆไปอีก ก็มาถึงสถานที่ที่เรียกว่า Gravensteen เป็นปราสาท ข้างในมีที่คุมขังนักโทษ และ อุปรณ์ต่างๆในการลงโทษ เข้าไปดูข้างในกัน เสียงตังด้วย คนละ 6 ยูโร