Amsterdam

www.holland4thai.net

counter create hit

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

อัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์และเมืองหลวงของจังหวัด Noord– Holland ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Amstel ซึ่งได้ชื่อว่ามีลำคลองลดเลี้ยวไปรอบเมืองถึง 165 คลอง มีพลเมืองประมาณ 730,000 คนซึ่งถือได้ว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

 

วิธีชมเมืองที่ดีที่สุดคือการเดินด้วยเท้า ทำให้ได้สัมผัสรายละเอียดของที่นี่ได้มากทีสุด ถัด ไปก็นั่งเรือชมอาคาร บ้านเรือนสองฝั่งคลอง หรือจะนั่งรถรางชมเมืองกันอีกซักรอบก็ยังได้

สำหรับวันนี้เราจะเดินชมเมืองกันน่ะเนื่องจากว่า  เรานั่งเรือกันหลายครั้งแล้วค่ะวันนี้เลยเดินอย่างเดียว  ตามมาเลยค่ะ

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

หากไม่ได้พักในอัมสเตอร์ดัม วิธีที่ดีทีสุดในการ เข้าไปเที่ยวคือ การนั่งรถไฟค่ะ เพราะไม่ต้องห่วงเรื่องที่จอดรถ ซึ่งหายากมาก และที่สำคัญ ค่าที่จอดรถแพงมากค่ะ

 

รถไฟเทียบชานชาลาแล้วนะคะ หลังจากออก
มาจากสถานี สิ่งแรกที่สะดุดตานักท่องเที่ยวคือ อาคารสถานีรถไฟนี่เองค่ะ
Centraal Station ช่วงนี้มีการก่อสร้างรถไฟใต้ดินหรือเมโทร เลย ไม่สามารถถ่ายภาพของสถานีมาให้ชมได้แบบตรงๆ ภาพที่เห็นด้านขวามือนี้คือ สถานีรถไฟหรือหัวลำโพงบ้านเรานี่แหละค่ะ

 

แล้วที่สะดุดตาต่อมาคือที่จอดรถค่ะ แต่เป็นที่จอดรถจักรยาน ภาพที่เห็นด้านล่างนั้นล่ะค่ะ มีจักรยานเป็นหมื่นเป็นแสนคัน ยังไม่นับที่จอดเรียงรายอยู่ด้านล่าง และตามถนนหนทางทั่ว ไปนะคะ

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

จากสถานีรถไฟ เราจะเริ่มเดินเข้าถนน Zeedijk กันนะคะ เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ถนนสายนี้จะเต็มไปด้วยพวกติดยา และพวกขายยาเสพติดทั้งหลาย แต่ปัจจุบันนี้ได้ภาพลักษณ์นั้น ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นจากเดิมมาก อาคารบ้านเรือนได้ถูกปรับปรุงใหม่ รวมถึงร้านค้าต่างๆ ทำให้เป็นถนนที่น่าเดินชมอีกสายหนึ่ง

 

ในช่วงแรกของหัวถนนนี้ คุณจะได้พบกับ In’t Aepjen ซึ่งในสมัย ศตวรรษที่ 15 จะเป็นที่พบปะสังสรรค์และที่พักแรมของชาวเรือ และนักเดินเรือจากทุกสารทิศ บางทีลูกเรือเหล่านี้ไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง ก็จะเอาทรัพย์สินที่มีจ่ายแทนตัวเงิน บางครั้งก็มีการจ่ายด้วยลิง นั่นคือที่มาของชื่อ (aap แปลว่าลิง)

 

ในช่วงที่สองของถนนนี้จะเป็นย่านไชน่าทาวน์ ชาวจีนเข้ามาตั้งรกรากในศตวรรษที่ 20 ในย่านนี้ก็จเหมือนกับไชน่าทาวน์ทั่วโลกคือ มีร้านค้า ร้านอาหารของชาวจีน ที่นี่ยังมีวัดจีนชื่อ Tempel He Hwa (ภาพด้านขวามือ) วัดนี้พระราชินี Beatrix ทรงเสด็จมาทำพิธีเปิดเมื่อปี 2000 สามารถเข้าไปชมได้วันจันทร์ถึงวันศุกร์เวลา 12-17 น. วันอาทิตย์เวลา 10-17 น.

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

เดินมาจนสุดถนน Zeedijk ก็จะเป็นส่วนที่เรียกว่า Nieuwmakrt ตรงมุมด้านซ้ายมือจะเห็นตึก De waag (ภาพด้านล่างซ้ายมือ) เป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในอัมใสเตอร์ดัม สร้างในปี 1488 อาคารนี้เดิมจะเป็นเหมือนกับประตูเมือง

 

จากที่นี่เราเดินต่อไปยังถนน St.Antoniesbreestraat ในสมัยก่อนแถวนี้เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวยิว ปัจจุบันแถวนี้ถูกปรับปรุงกลายเป็นอาคารร้านค้าทันสมัย

 

ภาพล่างด้านขวามือคือ Zuiderkerk เป็นโบสถ์คาทอลิคนิกายโปรแตสแตนท์แห่งแรกในเนเธอร์แลนด์ สร้างขี้นในปี1614 ปัจจุบันใช้เป็นที่จัดแสดงโครงการเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างและผังเมืองในอนาคตของเมืองอัมสเตอร์ดัม

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

Zuiderkerk

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

เดินมาถึง de St.Anthoniesluisในภาพด้านขวา มือจะเห็นอาคารนี้ สร้างขึ้นในปี 1965 มีจุดมุ่ง หมาย 2 ประการคือ ประการแรก ใช้เป็นที่ระวัง ป้องกันเรือของศัตรูไม่ให้รุกล้ำเข้ามาในเมืองและ สองใช้เป็นที่ปรับระดับความสูงของระดับน้ำใน คลอง ปัจุบันนี้เป็นไป Caféซะแล้ว

 

จากจุดนี้มองไปไกลๆด้านหลังจะเห็นหอคอยสูงนั้นคือ Montelbaanatoren หอคอยสำหรับใช้ระ แวดระวังภัยให้กับเมือง จากจุดนี้ถ้าเราเดินต่อไป ยังถนนJodenbreestraatก็จะได้พบ Rembrandthuis  บ้านของศิลปินที่มีชื่อว่า Rembrand ซึ่ง ผลงานของเขามีจัดแสดงที่ Rijkmuseum ด้วย เราไม่ได้เข้าไปชมกันหรอกเพราะว่าตัวเองก็ไม่ ได้เป็นคนหลงไหลศิลปะเท่าไหร่อ่ะน๊ะ

จากนั้นเราก็เดินลัดเลาะมาทาง Waterlooplein ผ่าน Stadhuis ศาลาว่าการเมือง มาถึงสะพาน Blauwbrug แต่เราไม่ข้ามสะพานนี้เราจะเดิน ไปทางซ้ายมือมุ่งหน้าไปทางลำคลอง Amstel เพื่อจะไปชมสะพาน Magere Brug เป็นสะพาน ไม้เป็นจุดที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของอัมสเตอร์ดัมเลยทีเดียว สร้างขึ้นในปี 1670 เป็นสะพาน เปิดเพื่อให้เรือผ่านไปได้

 

ขอย้อนไปอีกนิด เรื่องชื่อเมืองอัมสเตอร์ดัม มาจากชื่อ Amstel นี่เอง โดยชื่อในตอนแรกว่า Amstelredamme-dam over Amstel จากนั้น ก็กลายมาเป็น Amsterdam

 

ลำคลองแถวนี้จะเต็มไปด้วยเรือที่ใช้เป็นบ้าน มากมาย (ภาพด้านล่าง)

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

Magere Brug

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

เราก็เดินมาตามคลองPrinsengracht เรื่อยๆ ระหว่างทางก็เก็บภาพบ้านเรือนสองฝั่งคลองไปเรื่อยๆ ถ้าสังเกตุให้ดี จะเห็นว่าประตูบ้านแต่ละบ้านนั้นจะมีขนาดแคบมาก แต่หน้าต่างจะกว้าง มองขึ้นไปด้านบนสุด ก็จะเห็นมีรอกอยู่ทุกบ้าน นั่นก็เนื่องมาจาก ในสมัยก่อนนั้นเค้าเก็บภาษีบ้านเรือน โดยคำนวณจากความกว้างของประตูบ้าน ดังนั้นประตูบ้านเลยมีขนาดแคบมาก เวลาจะขนของเข้าบ้าน ก็ใช้วิธีขนเข้าทางหน้าต่าง โดยใช้ชักรอกขึ้นไปนั่นเอง

เดินมาถึงโบสถ์ Amstelkerk เราก็เลี้ยวขวา เดินไปเรื่อยๆ ผ่าน Rembrandtplein ไปจนถึง Muntplein ด้านขวามือก็จะเป็นตลาดดอกไม้ Bloemenmarkt จะมีดอกทิวลิปให้คุณได้เลือกซื้อมากกมาย แต่คิดว่าชมอย่างเดียวจะดีกว่านะ ซื้อไปคงเสียเงินเปล่า มันคงไม่ขึ้นอ่ะนะ แต่ถ้าเป็นทางเหนือของไทย ก็อาจจะขึ้นก็ได้นะ อีกอย่าง ราคาก็ไม่ได้ถูกอย่างที่คิดเลย แพงกว่าทั่วไปน่ะเราว่า เช่น ทิวลิป 50 ดอก ที่นี่ขายราคา 10 ยูโร แต่ที่ตลาดเมืองที่เราอยู่ 50 ดอก ก็ 6 ยูโรเอง

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

จากตลาดดอกไม้ เราเดินย้อนขึ้นไปที่ถนน Kalverstraat เป็นย่านช๊อปปิ้ง แวะดูของเรื่อยเปื่อย แล้วเราก็เดินมาทะลุที่ Dam square ในภาพที่เห็นด้านซ้ายมือจะเป็น Royal Palace ส่วนด้านหน้าที่เห็นจะเป็น Nieuwe Kerk

 

RoyalPalace หรือในภาษาดัชท์ Konniklijk Paleis สร้างขึ้นในปี 1648-1654 เพื่อใช้เป็น Stadhuis คือศาลาว่าการเมือง จนมา ในปี 1808 ในสมัยของกษัตริย์ Lodewijk Napoleon จึงได้ เปลี่ยนมาใช้เป็นที่พักอาศัยของราชวงศ์

 

ปัจจุบันนี้พระราชวังแห่งนี้ ได้ถูกใช้เป็นที่รับรองพระราชอาคันตุ กะของพระราชินี และเปิดให้เข้าชมได้ในส่วนที่เป็นห้องโถงสำ หรับจัดเลี้ยงซึ่งถือได้ว่าสวยที่สุดในยุโรปเลยทีเดียว (ตามหนัง สือเค้าวางั้นอ่ะนะ)เคยเห็นครั้งนึงจำมะได้แล้ว วันนี้เราไม่ได้เข้า ไปเพราะเค้าปิด

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

ปกติจะเปิดให้เข้าชมได้ในเดือน มิย -สค เวลา 11.17 น และเปิดเป็นบางวันในเดือน กย. ตค. พย. ตั้งแต่เวลา 12.30 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 4.50 ยูโรเด็ก 3.60 ยูโร   สำหรับเกร็ดความรู้เล็กน้อย พระราชวังแห่งต้องตอกเสาเข็มถึง 13,659 เสาเลยทีเดียว บางคนบอก เอ๊ะ ไม่เห็นต้องบอกกันเลย ที่ต้องพูดถึงเนี่ย เพราะอัม สเตอร์ดัมนั้นมีคูคลองเต็มไปหมด พื้นดินมันอ่อน ดังนั้นอาคารแต่ละแห่งที่สร้างเนี่ย ต้องตอกเสาเข็มกันลึกมากๆและเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว

 

Nieuwe Kerk สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 15 ถือเป็นโบสถ์ของราชวงศ์ และส่วนมากจะใช้ประกอบพิธีของราชวงศ์เท่านั้น และที่นี่ใช้เป็นที่ประกอบพิธี่แต่งงานของเจ้าชาย Alexander กับ Máxima ด้วย  นอกจากนั้นก็ยังใช้เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการต่างๆ วันนั้นเราได้เข้าไปด้านใน แต่ได้ชมแค่หน้าประตู เพราะเค้ามีนิทรรศการ ต้องเสียเงินด้วย ตั้ง 12 ยูโรแน่ะ เลยไม่เข้ามันล่ะ  ได้รูปมาแค่เนี๊ย ที่นี่จะเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 10-18 น. วันพฤหัส เวลา 10-22 น.

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

ถ้าเรายืนหันหลังให้พระราชวัง แล้วมองมาทางด้านหน้า ก็จะเห็น National Memorial ที่เป็นแท่งสูงๆขาวๆอยูด้านซ้ายของภาพนี้นั่น คืออนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงทหารและพลเรือนที่เสียชึวิตในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

จากพระราชวังเราเดินไปด้านหลัง ก็จะเจอกับอาคารที่เห็นในด้าน ขวามือนี้ เดิมเป็นอะไรไม่รู้ อิอิ หลังจากเดินมานานเริ่มไม่อยากรู้แล้วค่า มีใครเป็นแบบนี้มั่งไหมค่ะ รู้แต่ตอนนี้เป็นศูนย์การค้า ลองเข้าไปดูข้างใน ก็มีร้านย่อยๆ แต่ดูแล้วไม่ค่อยดึงดูดใจเราเท่าไหร่ เลยถอยออกมาดีกว่า

 

เราจะไปย่านที่อยู่อาศัยที่ชื่อว่า De Jordaan ย่านนี้จะเต็มไปด้วยตรอกซอกซอยเล็กๆ รวมถึงร้านค้าด้วย ร้านเล็กแต่ราคาไม่เล็กนะ  ก่อนไปถึงย่านนี้เราก็เก็บรูปไปเรื่อยๆ ผ่านโบสถ์ Westerkerk เข้าไม่ได้อีกแล้ว ช่วงนั้นจะมีแสดงคอนเสริตบรรเลงเพลง เข้าได้เฉพาะผู้รับเชิญ งั้นหันไปอีกนิด ไม่ไกลจากนี้ มองไปเจอ Anne Frank Huis แถวยาวจังเลย เออ จริงๆเราก็ไม่ชอบเข้าอยู่แล้วล่ะ เลยไม่เดือดร้อนเท่าไหร่

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

ด้านหลังที่เห็นคือโบสถ์ Westerkerk  ภาพชัดๆด้านขวามือค่ะ

page

1

2

 

 

 

 

 

 

 

 

De waag

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ของที่ระลึก มีให้เลือกซื้อมากกมาย